ดาว พิมพ์ทอง เขินสุดๆ ให้ถามพอร์ช ศรัณย์ ว่าเรียกแฟนได้หรือยัง?
ทำเอาขาเม้าท์แตกตื่นกันทั้งวงการ เมื่อเห็นข้อความการพูดคุยระหว่างนักแสดงสาว ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม กับพระเอกหนุ่ม พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ที่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม จนถูกแซวว่าความสัมพันธ์ของคู่นี้อาจจะเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วหรือเปล่า ล่าสุด ดาว พิมพ์ทอง ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงสถานะในครั้งนี้ให้ฟังว่า จริงๆ แล้วเธอกับฝ่ายชายเป็นเพื่อนกันมาก่อน และเพิ่งจะเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ ส่วนจะใช้คำว่าแฟนได้หรือไม่นั้น ให้ไปถามฝ่ายชายกันเอาเอง
ถามถึงเรื่องสถานะกับพอร์ช ?
“ถ้าเอาเรื่องสถานะไปถามเขาดีกว่า อยากให้เขาเป็นคนพูด”
แต่ก็ชัดเจนจากคอมเมนต์ที่หยอกกันไปมา ?
“เอาจริงๆ คอมเมนต์…โอเคเรายอมรับว่าคุยกัน แต่ส่วนของคอมเมนต์เราสนุกกัน มีเพื่อนๆ กลุ่มของเราที่เข้าไปคอมเมนต์เฮฮากัน สร้างความเอนเตอร์เทน เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กเฉยๆ”
ความสัมพันธ์เริ่มต้นยังไง ?
“จริงๆ ดาวกับพอร์ชรู้จักกันตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ตั้งแต่ถ่ายนิตยสารด้วยกันนานมากแล้ว ก็รู้จักกันแต่ไม่ได้ติดต่อกัน”
แล้วเขามาจีบเรายังไง ?
“จีบตอนไหนยังไม่รู้เลย (ยิ้ม) ช่วงปลายปีที่ผ่านมาวันที่ 27-28 ก็มีไลน์คุยกันว่าเป็นไงบ้าง สบายดีไหม แล้วนัดกันกินข้าว เขาเป็นคนทักมาค่ะ”
สรุปคือเขาจีบเราใช่ไหม ?
“จีบก็ได้ (ยิ้ม)”
ได้ถามเขาไหมว่าเพราะอะไรเขาถึงมาทักเรา ชวนเราไปกินข้าว ?
“ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นอะไรที่ใช้คำว่าเดท วันที่แหวนแหวนลงรูปนั่นคือวันที่เราเจอกัน ไปกินข้าวกันปกติ ยังคุยกัน มึงกูเป็นเพื่อนอยู่เลย”
ตอนเขาทักมาเราโสดอยู่รึเปล่า ?
“โสดค่ะ”
แล้วเราก็รู้ว่าเขาโสดใช่ไหม ?
“รู้ค่ะ”
คือเราไปดามใจเขาใช่ไหม ?
“เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรนะ”
เราเริ่มรู้สึกตอนไหนว่าเขามาจีบ ?
“เอาจริงๆ มันเร็วมาก เรื่องความรู้สึกมันจะมาบอกว่าต้องใช้ระยะเวลามันไม่ใช่ ด้วยความที่เรารู้จักกันมานานมาก แล้วมันไม่จำเป็น ถามว่าจีบไหมยังงงเลยว่าจีบตอนไหน”
สำหรับเราตอนนี้เรียกพอร์ชว่าแฟนได้แล้วไหม ?
“ให้พอร์ชพูดดีกว่า”
ในมุมเราล่ะเรียกว่าเป็นแฟนได้หรือเปล่า หรือเป็นคนที่พิเศษรึยัง ?
“พิเศษคนหนึ่ง”
เปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นคนที่คบกันเปลี่ยนไปยังไงบ้างทำตัวลำบากไหม ?
“จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย นานมาก ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันขนาดนั้น มันเลยไม่ได้มีโมเมนต์แบบว่าจากเพื่อนสนิทมาเป็นอะไรอย่างนี้ เป็นจากเพื่อนแล้วก็มาคุยกันมากกว่า”
อะไรในตัวพอร์ชที่ทำให้เราเปิดใจคุยกับคนนี้ ?
“เขาเป็นคนเอนเตอร์เทนเก่ง”
เรื่องความเอนเตอร์เทนของเขา เรากลัวไหมเพราะคนจะมองว่าเขาเจ้าชู้ ?
“กลัวอะไร เจอแต่คนเจ้าชู้จนชิน”
หรือว่าเขาเป็นสเปกเรา เพราะเป็นเจ้าผู้ชายดูเจ้าชู้หน่อย ?
“หนูยังไม่รู้สเปกตัวเอง อาจจะใช่รึเปล่า เขาเจ้าชู้เหรอคะ”
เรากลัวไหม เพราะเขาหวานมากขนาดนี้กลัวจะไปเร็วมาเร็วไหม ?
“ไม่กลัวค่ะ ไม่ได้กลัวอะไร”
เพื่อนๆ รอบตัวว่าไงบ้าง พอรู้ว่าเราคบกับพอร์ช ?
“ก็มีถามบ้าง ถามเยอะเลยเพราะโสดมานาน อยู่ดีๆ ก็มีคนคุย เพื่อนก็แซวๆ กัน”
อย่างเวลาเขาเข้ามาแซว เราเขินไหม แบบว่าเขาขาดเราไม่ได้ ?
“น่าจะเป็นอะไรที่คอมเมนต์กวนประสาทกันเฉยๆ มากกว่า”
ครอบครัวเราว่าไงบ้าง ?
“จริงๆ เขารู้จักกับคุณแม่ เวลาเราไปทำงานเราก็ไปกับคุณแม่ ก็ไม่มีปัญหาคุณแม่ให้สิทธิ์เราตัดสินใจ”
คุณแม่ให้ผ่านไหม ?
“เขาไม่ได้บอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน โตแล้วก็ให้อิสระ”
ความหวานเปลี่ยนไปไหม จากเพื่อนเป็นแฟน ?
“ยังไม่ได้พูดว่าแฟนเลย”
ต้องปรับตัวเยอะไหม ?
“แทบจะไม่ได้ปรับตัวอะไรเลย มีบ้างที่ว่าเราใช้ชีวิตคนเดียว ส่วนใหญ่ไปไหนก็ไปกับเพื่อน ก็มีเขาไปด้วยบ้าง”
คาดหวังกับความรักครั้งนี้ยังไง ?
“คาดหวังอะไรไม่ได้เลยกับความรัก มันไม่มีอะไรแน่นอนไม่มีอะไรตายตัว เราก็แค่มีสติกับเรื่องราวที่มันจะเกิดขึ้นตอนนี้ก่อน โอเคแฮปปี้เราก็รู้ตัวเองว่าเรามีความสุข อนาคตมันจะเป็นยังไงเราก็ต้องยอมรับทุกอย่างให้ได้”
ขอบคุณข้อมูลจาก www.sanook.com