จาก 95 เหลือ 45 กก. เปลี่ยนชีวิตแค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!


จาก 95 เหลือ 45 กก. เปลี่ยนชีวิต เมื่อก่อนแค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!

คุณอยากลดน้ำหนักกันมั้ยเอ่ย? เชื่อว่ามีหลายคนตอบกันเป็นเสียงเดียวว่า อยาก แต่เหตุผลของการลดน้ำหนักของแต่ละคนก้ไม่เหมือนกัน บางคนทำได้แต่บ้างคนกลับทำไม่ได้ วันนี้เรามีประสบการณ์ลดน้ำหนักของสาวที่เคยอ้วนถึง 95 กก. แต่ปัจจุบันเธอ นน. เหลือ 45 กก. ซึ่งเธอลดได้ 40 กก. เลยค่ะ ใครอยากลดน้ำหนักได้ไปอ่านประสบการณ์ของเธอกันเลยค่ะ

จริงๆเราอยากเขียนอะไรแบบนี้มานานแล้ว แต่เราก็ไม่ได้คิดจะจริงจังเขียนสักที
ไม่พูดพล่ำทำเพลงเลยแล้วกัน เราชื่อพลอย อายุ 25 ปี สูง 160 ซม. น้ำหนักตอนนี้ก็ 49-50 กก. โดยประมาณ อยากเล่าให้เป็นแรงบันดาลใจกับคนทุกคนที่กำลังพยายามลด และคนที่ยังไม่ได้ลด เราเชื่อว่าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้ เพราะเราเคยมีช่วงชีวิตที่หนัก 95 กก.มาแล้ว

พลอยเป็นเด็กอ้วนป้อมมาตั้งแต่เด็กตอนเด็กๆ เคยมั้ยคะ…อุดมสมบูรณ์มาตลอด ยายทำกับข้าวอร่อย รสมือแม่ที่เราต้องกินทุกวัน อ้วนสะสมมาตั้งแต่เด็ก ใครแซวก็ไม่รู้สึกอะไร ช่วงม.ปลายเป็นช่วงที่เริ่มอ้วนแบบจริงจังคือน้ำหนัก70กว่า จนขึ้นปี3 มหาลัยน้ำหนักขึ้นมาพีคสุดคือ 95 กิโลกรัม ก็เรียกว่าจ้ำม่ำ หน้ากลมเลยแหละ ก่อนหน้านี้คนรอบข้างมักจะแซวว่าอ้วนดำๆ บางคนก็เตือนว่าอ้วนแล้วนะลดได้แล้ว แม่ก็บ่นอยู่ทุกวันให้ลดน้ำหนัก โกรธก็โกรธ เจ็บก็เจ็บ แต่ก็ไม่ฟังใครทั้งนั้น!!!
วันนึงนั่งดูตัวเองที่หน้ากระจกคิดทบทวนว่านี่เราน้ำหนักจะ 100 กก. แล้วนะ เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก ใส่ได้เเค่เสื้อยืดไซส์ผู้ชายตัวยักษ์ๆ กับกางเกงสแล็กเอวเกือบ 44 นิ้ว เดินขึ้นสะพานลอยก็เหนื่อย ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย อยากมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่นๆ อยากแต่งตัวสวยๆ และแน่นอนอ้วนแบบนี้แฟนเฟินไม่ต้องหวังว่าจะมี

จุดนี้ทำให้เราฮึดหันมาลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ภายในระยะเวลา 6 เดือน เราน้ำหนักลงมาอยู่ที่ 65 กก. เราดีใจมาก เอวลดลงมาเกือบ 10 นิ้ว เสื้อผ้าหาใส่ง่ายขึ้น แล้วพอน้ำหนักลงเราก็กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม กินแบบเดิม ไม่ได้ไปออกกำลังกาย น้ำหนักก็ขึ้นมาอยู่ที่ 72 กก.
ช่วงเริ่มกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าเราจะกลับมาอ้วนอีกแล้วนะ เราจะรอให้มันกลับมา 95 กก. อีกหรอ?
เริ่มต้นช่วงกลางปี 2559 ก็ถือว่าเป็นการคัมแบ็คน้ำหนักเริ่มต้นที่ 72 กก. กลับมาเอาจริงกับการลดน้ำหนักอีกครั้ง รอบนี้มีเป้าหมายที่จริงจังมากกว่าเดิม จริงๆเรามีนิสัยเสียอย่างนึงที่เป็นเด็กดื้อไม่ฟังใคร และอยากทำอะไรจะทำด้วยตัวเองไม่ชอบให้ใครมาบังคับ กลับมารอบนี้พลอยเริ่มจากเลือกกิน แรกๆคือทำอาหารแบบงูๆปลาๆซื้อบ้าง แล้วศึกษาการทำกับข้าวการเลือกวัตถุดิบบลาบลาบลา ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จะเรียกว่ากินคลีนก็ไม่เชิง เพราะปกติเราเป็นคนกินรสจัด เค็มจัด เรียกว่าติดรสชาติอะแหละ ก็ปรับตัวจากการลดความจัดของรสชาติลง เมื่อก่อนผักกินแค่บางอย่าง เป็นคนเรื่องมากเรื่องกินมากๆ เลยค่อยๆปรับตัว พอทำมันบ่อยๆสกิลการทำอาหารก็มีอัพเลเวลนิดหน่อย อยากกินสปาเก็ตตี้ น้ำพริกอ่อง หรือเมนูแปลกๆก็เปิด google ลอกเค้าเอา 555

พอทำกับข้าวกินเองสักพัก ก็มีการเริ่มคิดอยากจะออกกำลังกาย เลย walk in เข้าไปสมัครฟิตเนสอย่างทันท่วงที ไม่มีเซลล์โทรมาขายคอร์สแต่อย่างใด ช่วงแรกๆก็ทำอะไรเป็นเลยเข้าไปออกกำลังกายเเบบมึนๆงงๆ เข้าคลาสงูๆปลาๆ แปปๆก็เหนื่อยละ สควอซยังทำไม่เป็นเล้ยยยยย คิดดู้ววว!!! ก็พยาพยามไปทุกวันหลังเลิกงานให้ชิน พอเข้าไปสักพักเราก็เริ่มมีกลุ่มเพื่อนในฟิตเนสบ้าง ได้มีการพูดคุยกับเทรนเนอร์ในฟิตเนสบ้าง จากแต่ก่อนเข้าวันละคลาสก็เหนื่อย ก็เพิ่มเป็น 2 3 4 5 คลาส เริ่มคลั่งการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆ จากที่ออกแค่ตอนเย็น ก็ผลันตัวมาออกกำลังกายตอนเช้าก่อนไปทำงานอี๊กกกก (เหตุผลคือการออกกำลังกายตอนเช้าเราจะได้ weight training แบบเต็มที่เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนน้อย ทุกเครื่องเล่นเป็นของเรา) ในส่วนของตอนเย็นเราก็เบิร์นเองบ้าง เข้าคลาสจักรยาน ,bodypump ,core abs ,functional training สลับๆกันไป เรื่องอาหารการกินก็เป็นบ้าหอบฟางเเบกกล่องข้าววันละ 2 กล่องไปทำงาน กินมื้อเช้าที่ฟิตเนส มื้อเที่ยงที่ออฟฟิต ตอนเย็นมาออกกำลังกาย ออกกำลังกานเสร็จก็มาจ่ายตลาดซื้อของที่ supermarket ทำจนเป็นชีวิตประจำวัน

น้ำหนักเราก็ลงมาๆเรื่อยๆ จนมาถึงขั้นน้ำหนักน้อยที่สุดในชีวิต คือ 48.8 กก. รอบเอวเหลือ 25 นิ้ว พอมาถึงวันนี้เรารู้สึกมันเป็นวันของเรา จริงๆการเริ่มเปลี่ยนแปลงของเรามันมีโมเม้นต์ต่างๆเยอะแยะมากมายจากไม่เคยแต่งหน้า ก็มีพี่สอนแต่งหน้า จากแต่งตัวน้อยๆเสื้อยืด กางเกงสแล็ก ทุกวันนี้เราความสุขกับการแต่งตัว อยากใส่อะไรก็ใส่ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนเป็นคนกลัวกล้องแอบกล้องอยู่หลังเพื่อนบ้าง ทุกวันนี้ก็เรียกว่าบ้ากล้องก็ได้ แต่เราเชื่อว่าการถ่ายรูปเก็บไว้มันก็เป้นไดอารี่ที่ดีในการเก็บเรื่องราวในชีวิตเหมือนกัน เวลาย้อนกลับไปดูว่าเราเคยผ่านอะไรมาบ้าง เราว่ามันก็ดีนะ

เราเชื่อว่าคนทุกคนทำแบบเราได้ ทุกคนผอมได้ หลายคนถามพลอยว่า พลอยทำยังไงพลอยลดยังไง ออกกำลังกายยังไง กินอะไรบ้าง (ปล.มีอย่างนึงนะหลายคนถามว่ากินยารึป่าว โกรธเหมือนกันเวลามีคนถาม555 แฮร่ๆ) จริงๆการลดน้ำหนักมันไม่ได้มีสูตรลดอะไรทั้งนั้นแหละ มั่นแค่คำว่า “ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย” แค่นั้นจริงๆนะ เราว่าทุกคนก็ทำได้ถ้าใจแข็ง และมีวินัยในตัวเองมากพอ รักตัวเองให้มากๆนะ ขอให้ทุกคนหุ่นดี มีสุขภาพที่แข็งแรงนะครัช

จากเด็กอ้วนๆดำๆน้ำหนัก 95 กก.

ขอบคุณข้อมูลจาก เข้าของกระทู้พันทิปเรื่อง “กว่า 45 กก. เปลี่ยนชีวิต แค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!”




(Visited 416 times, 1 visits today)